ตื่นเต้นกับของเล่นอนิเมชัน ในภาพยนตร์เรื่อง TOY STORY 3

ชื่อโครงการ ,,ภาพยนตร์เรื่อง Toy Story 3

ข้อมูลและลักษณะโครงการ

Toy Story ซึ่งเป็นภาพยนตร์อนิเมชันเต็มรูปแบบเรื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี CG ถูกคิดขึ้นและกำกับโดยแลสเซทเตอร์ อดีตอนิเมเตอร์จากดิสนีย์ ผู้เคยได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วจากภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่อง Tin Toy โดย Toy Story เป็นหลักสำคัญในประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์อนิเมชัน ตลอดงานอนิเมชันที่น่าทึ่ง 77 นาที ช็อต 1,561 ช็อตและตัวละคร 76 ตัวที่มีทั้งมนุษย์ ของเล่นและสุนัข ถูกออกแบบด้วยมืออย่างประณีต ก่อนที่จะถูกสร้างและทำให้เป็นภาพเคลื่อนไหวในคอมพิวเตอร์ ปัจจุบัน มีถึงภาคที่ 3 ในระบบ 3D เริ่มฉายในประเทศไทย 12 สิงหาคม 2553

ปัญหา ,, หนังแนวอนิเมชันมีการแพร่หลายน้อย

จุดมุ่งหมาย ,, เพื่อนำเสนอผลงานอนิเมชันที่น่าทึ่ง ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต

กลุ่มเป้าหมาย

- ด้านกายภาพ ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงวัยผู้ใหญ่ที่สนใจพาบุตรหลานเข้าชม

- ด้านจินตภาพ กลุ่มคนที่สนใจเรื่องของอนิเมชั่น / จินตนาการ / การผจญภัย

แนวความคิด ,, ของเล่นมีชีวิต

อารมณ์และความรู้สึก ,, น่าทึ่ง / สนุก / ตื่นเต้น

รูปแบบการนำเสนอ

- แนวความคิด 60%

- ความสวยงาม 30%

- ประโยชน์ใช้สอย 10%

จำนวนและปริมาณสื่อที่ใช้

- ตัวมาสคอต ใช้ตัวแสดงมีชื่อว่า บัทไลเยียร์

เป็นตัวมาสคอต ซึ่งจะเป็นตัวสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้

เพื่อเป็นการสื่อให้เห็นถึงหุ่นยนต์ของเล่นที่มีชีวิต

- จัดโครงการประกวด I Con DukDik ใน Facbook / Twitter

และนำผลงานไปโพสลงในเวป Youtube ผลงานชิ้นไหนได้รับคะแนนโหวดสูงสุด

จะได้รับตั๋วชมภาพยนตร์ฟรี

ตัวอย่าง I Con DukDik

วิเคราะห์ ภาพยนตร์

ชื่ออังกฤษ
Toy Story 3


ชื่อไทย
ทอยสตอรี่ 3

ประเภทหนัง
Animation

ผู้กำกับ
Lee Unkrich

วันที่เข้าฉาย
12 August 2010

นักแสดง
Tom Hanks, Tim Allen, Joan Cusack, John Ratzenberger, Wallace Shawn, Don Rickles, Estelle Harris, Ned Beatty, Michael Keaton, Jodi Benson, Blake Clark, Timothy Dalton, John Morris, Laurie Metcalf, Bonnie Hunt, Jeff Garlin, Whoopi Goldberg, Kristen Schaal

ทอยสตอรี่ 3 เรื่องย่อ
ได้เวลาเปิดกล่องของเล่นอีกครั้ง กับทีมผู้สร้าง ทอย สตอรี่ ที่จะพาผู้ชมกลับเข้าสู่โลกอันสดใสของ วู๊ดดี้, บัซ และเหล่าแก๊งค์ของเล่นสุดโปรดของพวกเราใน ทอย สตอรี่ 3 วู๊ดดี้ และ บัซ ยอมรับความจริงที่ว่าวันหนึ่ง แอนดี้ เจ้าของพวกเขาจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันนั้นมาถึงล่ะ ในภาค 3 นี้ แอนดี้ จะต้องออกจากบ้านไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยที่เขาต้องทิ้งเหล่าของเล่นผู้ซื่อสัตย์ให้ตกอยู่กับอนาคตที่ไม่แน่นอน ของพวกเขาว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป พวกเขาจะถูกทิ้ง ถูกบริจาค หรือถูกเก็บไว้จนฝุ่นเกาะโดยไม่ถูกนำมาเล่นอีกตลอดไป แล้วพวกเขาจะต้องกับผจญภัยในรูปแบบไหนกันบ้าง และเหล่าของเล่นใหม่ ๆ ที่จะมาเพิ่มความสนุกในภาค 3 นี้ มีใครกันบ้าง ต้องตามไปลุ้นกันต่อในโรงภาพยนตร์ และที่สำคัญ กลับมาคราวนี้พวกเขาจะมาในแบบ 3 มิติ ! ลี อันคริช (ผู้ช่วยผู้กำกับ จาก ทอย สตอรี่ 2 และ ไฟน์ดิ้ง นีโม) รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคต่อที่ทุกคนตั้งตารอ พร้อมกับทีมนักแสดงชุดเดิมที่พากย์เสียงให้กับ ทอย สตอรี่ มาตั้งแต่ภาคแรก และดื่มด่ำไปกับเพลงประกอบเพราะ ๆ จาก แรนดี้ นิวแมน นักประพันธ์เพลงเจ้าของรางวัลออสการ์จาก ทอย สตอรี่, ทอย สตอรี่ 2, และ มอนส์เตอร์ อิงค์


บทวิจารณ์

คงจะไม่เกินเลยไปนักหากจะขอใช้คำว่า “ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ” กับ หนังแอนิเมชั่นลำดับที่ 11 ของพิกซาร์เรื่องนี้ ซึ่งจะว่าไปแล้วผลงานของพิกซาร์ 10 เรื่องที่ผ่านมา ก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้กับเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่คราวนี้มันอาจจะพิเศษกว่าครั้งอื่นๆ อยู่สักหน่อยตรงที่ว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังภาคต่อและเป็นภาคที่ 3 แล้วด้วย แต่มันก็ยังทำให้เรารู้สึกตราตรึงหัวใจได้ไม่แพ้กับหนังสองภาคแรก หนำซ้ำ หาก Toy Story 3 เป็น บทสรุป หรือเป็น ภาคจบ แล้วล่ะก็ นี่คงเป็นการปิดตำนานสุดยอดหนังการ์ตูนเรื่องนี้ลงอย่างสมบูรณ์แบบ


ความคิดเห็น

- ยังไม่อยากให้จบอะ ยังหนุกอยู่เลยอะแงงงงงงงง

- ดูแล้วนึกถึงของเล่นเก่าๆ ที่บ้านจริงๆ ด้วยฮะ

- สนุกมากเลยครับ บูดดี้เท่มากเลยต้นเรื่อง ล็อทโซ่นึกว่าตัวดี เเต่ร้ายมากๆ

- หนังนุกมากก บางที่ก็เศร้า

- เห็นด้วยร้อยเปอร์เซนต์ครับว่า ซิงหนังแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากออสการ์แน่นอน


จากบทวิจารณ์และความคิดเห็น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจกับผู้ชมมาก เนื่องจากเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ที่เข้ามาฉายในประเทศไทย เพราะในประเทศไทย ภาพยนตร์แนวอนิเมชั่นมีน้อย และยังไม่มีสามมิติ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม
จาก http://www.majorcineplex.com/movie_detail.php?mid=337






วิเคราะห์ ศิลปิน

ดา เอ็นโดรฟิน

ประวัติส่วนตัว ของ ดา เอ็นโดรฟิน
ชื่อ-นามสกุล : ธนิดา ธรรมวิมล
ชื่อเล่น : ดา
สังกัด : GRAMMY
วันเกิด 1 กันยายน 2529
การศึกษา : พาณิชยการราชดำเนิน
งานอดิเรก : ฟังเพลง, งานศิลปะ, เที่ยว
เครื่องดนตรีที่เล่นได้ : กีตาร์, เบส, คีย์บอร์ด
อาหารโปรด : อาหารอีสาน (ส้มตำ, ไก่ย่าง)

ผลงาน
อัลบั้มภาพลวงตา
Artist Name : ดา เอ็นโดรฟิน
Album Name : ภาพลวงตา
Release Date : มกราคม 2550
การผลัดเปลี่ยนช่วงชีวิตของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง.. จากประสบการณ์ที่เข้มข้นถูกกลั่นกรองออกมา เป็นงานเพลงที่พิถีพิถัน เข้มด้วยเนื้อหาและชั้นเชิงทางดนตรี Pop Rock ที่ผสมเสียงสังเคราะห์ของคีย์บอร์ด และเปียโน เพิ่มสีสันดนตรีด้วยลูกเล่นที่ซับซ้อน ทั้ง กลอง เบส กีตาร์ จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละเพลง บวกกับการดีไซน์เสียงร้องที่ลงตัว.. ภาคดนตรีจะมีเสียงสังเคราะห์ของคีย์บอร์ดเยอะขึ้น เปียโนและออร์แกนมีบทบาทมากขึ้น การร้องของดาก็เปลี่ยนไปจาก 2 ชุดแรก ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ดาเข้าใจเสียงของตัวเอง สามารถคุมเสียงได้ตามอารมณ์เพลงได้อย่างลงตัว”

“งานชุดนี้จะเน้นความตรงไปตรงมา พูดอะไรง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เป็นความจริงของชีวิต ของประสบการณ์ที่เจอ ทั้งเรื่องความรัก การใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ของคนเมือง ซึ่งในความที่เป็น ดา ภาษาที่ใช้ก็จะหนักแน่น เป็นลักษณะของผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง แข็งแรง ไม่ฟูมฟาย”
เพลงในอัลบั้มชุด ภาพลวงตา
1. คืนข้ามปี
2. สิ่งที่ฉันเรียนรู้
3. ภาพลวงตา
4. วน
5. รุ่งอรุณ
6. ที่เห็นและเป็นอยู่
7. สีสันของความต่าง
8. คำขอสุดท้าย
9. แล้วเราจะพบกันใหม่
10. รักษาสิทธิ์

อัลบั้ม ซาวด์ อะเบาท์ (Sound about)
ชื่ออัลบั้ม : ซาวด์ อะเบาท์ (Sound About...)
แนวเพลง : Pop
สังกัด : Gmm
วางแผง : มกราคม 2551
หลังจากได้ฝากผลงานเพลงแรงข้ามปีอย่าง "คืนข้ามปี" กันไว้เมื่อปลายปี'49 พร้อมทั้งส่งเพลงอื่นๆ จากอัลบั้ม "ภาพลวงตา" ไม่ว่าจะเป็น คำขอสุดท้าย, ภาพลวงตา, ที่เห็นและเป็นอยู่ และ รักษาสิทธิ์ ออกมามัดใจเหล่าสาวกซะจนอยู่หมัดแล้ว ล่าสุด นักร้องเสียงมีเอกลักษณ์ขวัญใจเด็กฮิปอย่าง "ดา เอ็นโดรฟิน" (ธนิดา ธรรมวิมล) ก็ได้ปล่อยซิงเกิล "ได้ยินไหม" งานเพลงจากอัลบั้มใหม่ "ซาวด์ อะเบาท์ (Sound About...)" ออกมาจนกลายเป็นอีกเพลงหนึ่งที่ฮิตแรงข้ามปีกันอีกรอบ ซึ่งเมื่อปล่อยซิงเกิลนี้ออกมาให้เหล่าสาวกชิมลางกันไปไม่ทันไร เพลงนี้ก็พุ่งขึ้นสู่ชาร์ตอันดับ 1 ทั่วประเทศซะแล้ว
"อัลบั้มนี้ดาและพี่ๆ ทีมเพลงทุกคนต่างก็มองตรงกันว่าอยากให้เป็นปีแห่งความหวัง ก็เลยพยายามจะเน้นไปที่เพลงช้าที่มีความหมายดีๆ เพื่อให้กำลังใจคนฟัง ซึ่งดารู้สึกว่าดาสามารถอินและสื่อสารอารมณ์เพลงช้าได้ดี และสิ่งที่เพิ่มเข้าไปในเนื้อหาก็คืออารมณ์ และความรู้สึกล้วนๆ จะเป็นเหมือนคนที่ไม่คิดอะไรมาก จะใช้อารมณ์และความรู้สึกในการดำเนินชีวิตมากกว่า ในเรื่องของดนตรีดาก็มีส่วนร่วมในเรื่องของเมโลดี้ คือ อัลบั้มนี้ส่วนใหญ่ทุกเพลงจะไปลงตัวที่ห้องอัด คือ พี่ๆ เขาจะมีเมโลดี้หลักๆ มาให้ก่อน แล้วพอเข้าห้องอัดเวลาที่ดาร้องแล้วเกิดติดคำไหน หรือรู้สึกว่าเมโลดี้กับคำมันขัดกัน เราก็จะดีไซน์กันใหม่ตรงนั้นเลย" ดา เล่าการทำงานในอัลบั้มนี้
นักร้องสาวตัวเล็กเสียงคุณภาพเล่าต่อถึงที่มาของอัลบั้มว่า "ชื่ออัลบั้ม ซาวด์ อะเบาท์ จริงๆ แล้วชื่อก็พูดถึงอะไรหลายๆ อย่างที่รวมอยู่ในอัลบั้ม คือ ซาวด์ อะเบาท์ ไลฟ์, อะเบาท์ เลิฟ, อะเบาท์ ทุกๆ จินตนาการ ซึ่งโดยรวมจะเกี่ยวกับชีวิต ความรัก ความรู้สึก จินตนาการ เป็นอะเบาท์หลายๆ อย่างรวมเป็น 10 เพลง เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คน"
เพลงในอัลบั้ม ซาวด์ อะเบาท์ (Sound About...)
1. ได้ยินไหม
2. วันใหม่
3. อย่าบอกว่าไม่มีใคร
4. ชีวิตนี้สั้นจะตาย
5. ดูแลเขาให้ดีดี
6. รักจะนำทาง
7. หายเหนื่อย
8. ไปไม่ไกล แค่ไม่นาน
9. รักครั้งใหม่
10. การเดินทางที่แสนพิเศษ

บทวิจารณ์

เสียงโดน ใจสุด ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ
จากคุณ CCC

เป็นกำลังใจให้พี่ดาเสมอนะค่ะ สู้ ๆ ค่ะ
จากคุณ dee

ผมชอบผลงานของดาครับ สู้ๆครับ
จากคุณ ttt

อย่าไปทำศัลยกรรมนะ ได้ดีมาขนาดนี้นะ ก็เพราะหน้าใบนี้ละ ที่พ่อแม่ให้มา เป็นตัวเองที่ไม่มีใครเหมือนดีกว่า เป็นหนึ่งในบล๊อกที่เขาหล่อ ชอบมากเสียงเพลง ทำต่อไป
จากคุณ ลุงเอง
จะติดตามต่อไปครับ ซื้อของแท้ทุกอัลบัม... แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะแกรมมีไม่ออกแผ่น MP3มาขายเลยต้องโหลดด้วยหน่อย...อิๆ
จากคุณ rune เช็ค

รักพี่ดาที่สุดเลย
จากคุณ Zubowh Sz

รักพี่ดาครับๆ
จากคุณ รักดาาEDP

จากคำวิจารณืทั้งหมดนี้ สื่อให้เห็นว่า มีคนชื่นชอบนักร้องหญิงคนนี้ เนื่องจากเธอมีผลงานที่ดีเยี่ยม ในแต่ละอัลบั้มของเธอ เพลงติดอันดับเพลงฮิตหลายสัปดาห์ และหลายเพลง เธอไม่กลัวคำวิจารณ์ใด ๆ พร้อมรับและพัฒนาเพื่องานที่ดี
จาก http://musicstation.kapook.com/view16947.html